บทความยอดนิยม

/



ถนนคนเดิน ลานคนเมือง จ.นครพนม

ไม่มีความคิดเห็น:


 ถนนคนเดินนครพนม ถูกจัดขึ้นในทุกๆวันศุกร์ - เสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. บนถนนสุนทรวิจตรที่อยู่เลียบริมแม่น้ำโขง โดยเริ่มต้นจากหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ โดยหอนาฬิกาแห่งนี้เป็นหอนาฬิกาที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวเวียดนามก่อนที่จะย้ายกลับปิตุภูมิ เมื่อปีพ.ศ. 2503 เพื่อแสดงถึงความเกี่ยวพันธ์กับชาวเวียตนามตั้งแต่สมัยโฮจิมินท์ 




ปัจจุบันถนนคนเดินนครพนมได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งรวมไปถึงแหล่งรวมอาหารอร่อยริมแม่น้ำโขงที่เพื่อนๆจะได้ช้อป ชิม ชิลล์ พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงในยามเย็น นอกจากจะได้ได้เที่ยวชมถนนคนเดินแล้วนั้น เพื่อนๆยังจะได้ชมความสวยงามของตึกเก่าๆ อาคารไม้โบราณ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี 




เรียบเรียงบทความโดย Travel.thaiza.com
Read More

บ้านลุงโฮ นครพนม

ไม่มีความคิดเห็น:


พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียนนาม และบ้านท่านประธานาธิบดี โฮ จิ มินห์ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเจ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม ระหว่างปีพ.ศ. 2467–2474

ซึ่งประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ได้ใช้ชีวิตอยู่นานถึง 7 ปี ตลอดระยะเวลา 7 ปี ได้ใช้บ้านพักแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับติดต่อ ประสานงานวางแผน และเคลื่อนไหวในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาติ จึงถือได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกอบกู้อิสรภาพ ให้แก่ประเทศเวียดนาม โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้การกู้ชาติประสบผลสำเร็จ 


การเดินทาง 
จากตัวจังหวัดนครพนม จะมีทางหลวงแผ่นดินสาย 22 ไปยังจังหวัดสกลนครและเลยไปจนถึงจังหวัดอุดรธานี ห่างจากตัวอำเภอเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงแผ่นดินสาย 22 ทางซ้ายจะเห็นป้ายบอกว่าไปหมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม กม.238 บ้านนาจอก อยู่ฝั่งซ้ายมือให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนคอนกรีตสุดทาง 




ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sadoodta.com
Read More

ติดต่อจองรถเช่า

ไม่มีความคิดเห็น:

ข้อมูลการติดต่อ
สำนักงานเลขที่ 54/2 ถ.นคร-ธาตุ
ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม 48000
เบอร์ติดต่อ : 085-742 2035, 098-187 7207
อีเมล : info@kitipongcarrent.com
Line ID : 0857422035
Website : www.kitipongcarrent.com


Read More

รถเช่า นครพนม

ไม่มีความคิดเห็น:
กิติพงษ์ รถเช่านครพนม ให้บริการรถเช่ารถเก่ง กระบะ และรถตู้ ติดต่อโทร 085-7422035, 098-1877027
บริการเช่ารถขับเอง – เช่ารถพร้อมคนขับ- รถเช่า สปป.ลาว

ประเภทรถยนต์ ECO CAR รถอีโคคาร์รถขนาดเล็กขับสบาย คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน




ประเภทรถยนต์ CITY CAR ซิตี้คาร์ รถขนาดกลางหมาะสำหรับขับในเมือง ขับสบาย ประหยัดน้ำมัน



ประเภทรถ EXECUTIVE CAR รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ภายในกว้างขวาง นั่งสบายประหยัดน้ำมันเหมาะสำหรับผู้บริหาร




ประเภทรถกระบะ 4 ประตู 2 ประตู ยกสูง ตัวเตี้ย


Read More

การจองรถยนต์เช่า

ไม่มีความคิดเห็น:

การจองรถยนต์เช่า - กิติพงษ์ รถเช่านครพนม ติดต่อโทร 085-7422035, 098-187702


การค้ำประกันการเช่า

  1.  โทร แจ้งการเช่ารถโดยละเอียด เช่น วันที่รับ-ส่งรถ, สถานที่รับ-ส่งรถ, ข้อมูลเบื้องต้นของผู้ขับขี่ เป็นต้น 
  2. สำหรับการจองรถเช่าต้องชำระเงินค่ามัดจำการจองรถเช่า 1,000 บาท จองรถล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันขึ้นไป
  3. เมื่อโอนเงินค่ามัดจำการจองรถเช่าแล้ว แจ้งการโอนเงิน ทางเราจะติดต่อกลับไปเพื่อยืนยันการจองรถเช่าอีกครั้ง


*** หมายเหตุ : เราขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำ กรณีผู้เช่ายกเลิกการจอง***



การชำระเงินค่ามัดจำการจองรถ
ธนาคาร : กสิกรไทย
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
สาขา : นครพนม
ชื่อบัญชี : นายเอกลักษณ์ มาค่าย
เลขบัญชี : 244-2-71011-5


*** ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเช่ารถ โทร. 085-742 2035, 098-187 7207
Read More

รายละเอียดและเงื่อนไขการเช่ารถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:


รายละเอียดและเงื่อนไขการเช่ารถยนต์

การค้ำประกันการเช่า
วางเงินสดค้ำประกันการเช่า จำนวน 2,000 บาท สำหรับรถยนต์ทุกประเภท (ได้คืนวันที่คืนรถ)

เงื่อนไขการเช่า

  1.  ผู้เช่าต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ อย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
  2. ผู้เช่าจะต้องขับขี่รถยนต์เช่าเพื่อการทัศนาจรหรือประกอบธุรกิจที่ไม่ผิดกฎหมาย 
  3. ห้ามผู้เช่านำรถยนต์ที่เช่าไปใช้เช่าช่วง หรือมอบให้บุคคลอื่นด้วยประการใดๆ เป็นอันขาด 
  4. ผู้เช่าต้องเติมน้ำมันเอง โดยผู้ให้เช่าจะมีน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับเต็มถัง เมื่อครบกำหนดส่งคืนรถยนต์เช่า ผู้เช่าต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงคืนให้กับผู้ให้เช่าในระดับเต็มถังเหมือนเดิม และห้ามสูบบุหรี่ในรถยนต์เช่าโดยเด็ดขาด (ปรับเงินเพิ่ม 1,000 บาท)
  5. ห้ามนำรถยนต์เช่าไปใช้ในเส้นทางที่มิใช่เส้นทางจราจรโดยเด็ดขาด และห้ามนำรถยนต์เช่าออกนอกเขตประเทศไทยเด็ดขาด
  6.  ผู้เช่าส่งคืนรถยนต์เช่าเกินเวลาที่กำหนดตามสัญญา ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเกินเวลาเพิ่มในอัตราชั่วโมงละ 100 บาท เกินเวลา 5 ชั่วโมงขึ้นไป คิดค่าเช่าเป็น 1 วัน (ครบกำหนดเช่า 1 วัน ใน 24 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ทำสัญญา)
  7. ผู้เช่าหรือบุคคลอื่นใดได้นำรถยนต์ที่เช่าไปกระทำผิดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือปฏิบัติผิดกฎหมายข้อบังคับของเจ้าพนักงานจราจร (พ.ร.บ.จราจร) ไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
  8. การประกันภัยรถยนต์เช่า เมื่อผู้เช่านำรถยนต์เช่าไปประสบอุบัติเหตุต้องแจ้งผู้ให้เช่าทราบ เพื่อแจ้งบริษัทประกันภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    • กรณีเกิดอุบัติเหตุ ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าความเสียหายส่วนแรก 1,000-5,000 บาท และผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าเสียเวลาและค่าชดเชยรายได้ให้แก่ผู้ให้เช่า
    •  ระหว่างรถจอดซ่อมซึ่งทำให้รถยนต์เช่าขาดจากการดำเนินธุรกิจในอัตรา 60% ของค่าเช่า จนกว่ารถยนต์เช่าจะซ่อมแล้วเสร็จ 
    •  ในความรับผิดทางอาญา หรือ พ.ร.บ.จรารจร ผู้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบแล้วแต่รูปคดี ส่วนความเสียหายทางแพ่งต่อคู่กรณี
     9. กรณี รถยนต์เช่าเกิดสูญหาย หรือ ขาดหายส่วนประกอบของรถยนต์ไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้เช่าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทันทีที่ถูกเรียกร้อง
    10.กรณี เกี่ยวกับ ยาง, ล้อ รถยนต์เช่าเกิดปัญหา ผู้เช่าต้องรับผิดชอบเองทั้งสิ้น
Read More

รอยพระพุทธบาทบ้านเวินปลา

ไม่มีความคิดเห็น:


รอยพระพุทธบาทเวินปลาอยู่บนโขดหินเล็ก ๆ ในแม่น้ำโขงที่บนฝั่ง   ห่างกันประมาณ   100   เมตร   ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือมีเนินดินเล็ก ๆ   ขนาด 30 x 50 เมตร   สูง 1   เมตร   จากพื้นที่โดยรอบ   เรียกว่าดอนพระบาท 





ตำนานความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทเวินปลา กล่าวไว้ว่า ในสมัยครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระภิกษุรูปหนึ่งล่องเรือมาตามลำน้ำโขง พอมาถึงสถานที่ซึ่งประดิษฐานรอยพระพุทธบาทในปัจจุบัน เกิดหิวน้ำ แต่ไม่มีขันตักน้ำ จึงเด็ดเอาใบได้มาทำเป็นจอกตักน้ำโดยมาปลงอาบัติ (ต้นได้มีอยู่ 2 ชนิด คือ ต้นได้ธรรมดา และต้นได้ท่านมรณภาพไปแล้วจึงเกิดเป็นพญาปากคำ (ปลาตะเพียนทอง) มีบริวารถึง 500 ตัวเพื่อชดใช้กรรม ตำนานกล่าวด้วยว่า พญาปากคำตัวนี้อายุยืนไปจนถึงพระศรีอริยเมตตรัยมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (สิทธัตถะ) เสด็จมาที่อำเภอธาตุพนม แล้วได้เสด็จผ่านนมทีพระธาตุอิงอัง เมืองท่าแขก ประเทศลาวแล้วเสด็จเลยมาถึงที่ตั้งรอยพระพุทธบาทเวินปลา พระองค์จึงตัดตอบว่า มีพญาปากคำตัวหนึ่งแสดงอาการอยากได้ของที่ระลึกเพื่อให้คนกราบไว้บูชาพญาปากคำ จึงถือโอกาสเล่านิทานประวัติดังกล่าวข้างต้น เสร็จแล้วพระองค์จึงประทับรอยพระบาทไว้ที่โขดหินกลางแม่น้ำ ห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร ห่างจากวัดพระบาทเวินปลาประมาณ 150 เมตร เหตุที่ชื่อว่าพระพุทธบาทเวินปลา เพราะรอยพระบาทตั้งอยู่ในโขดหินกลางน้ำ (ภาษาพื้นเมือง "เวิน" คือ วังน้ำวน) และเนื่องจากพญาปากคำเป็นผู้ขอรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ จึงได้ชื่อว่า "รอยพระบาทเวินปลา"




ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม
ภาพจาก www.manager.co.th
Read More

หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:


หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ เป็นหอนาฬิกาที่ชาวเวียดนามได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนม เมื่อคราวย้ายกลับ ปิตุภูมิประเทศเวียดนาม สร้างเมื่อ พ.ศ.2503




หอนาฬิกาชาวเวียดนามอนุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนครพนม โดดเด่นเป็นสง่ากลางถนน จุดนี้เป็นเหมือนการขอบคุณคนไทยของชาวเวียดนาม ที่ได้สร้างขึ้นเมื่อครั้งฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู ชาวเวียดนามที่ลี้ภัยมาอาศัยในนครพนม ได้ร่วมกันสร้างหอนาฬิกาขึ้นเพื่อระลึกถึงไมตรีจิตของคนไทย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไว้เสมอมา ถัดจากหอนาฬิกาและเรียบริมฝั่งโขงไปเรื่อยๆ ให้แวะสักการะวัดสำคัญๆ ทุกๆวัด ได้แก่ วัดศรีบัวบาน ที่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอันมีงานจิตกรรมฝาผนังที่สวยงามมาก เลยไปอีกหน่อย จะเจอวัดโพธิ์ศรี ที่งามอร่ามด้วยพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ เป็นพุทธรูปโบราณในสมัยล้านช้างถัดจากวัดโพธิ์ไม่มากนัก ให้แวะเข้าไปสักการะหลวงพ่อองค์ตื้อที่วัดกลาง แล้วก็ไปไหว้พระธาตุที่วัดมหาธาตุ แต่ถ้าใครเกิดวันเสาร์ก็นับว่าโชคดี เพราะพระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์ และวัดที่ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปสักการะอีกวัดหนึ่งของเส้นทางชมเมืองนครพนม นั้นคือวัดพระอินทร์แปลง ไหว้แล้วอย่าลืมขอพรหนึ่งข้อจากพระอินทร์ ที่เล่าว่าท่านมักจะเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์เพื่อให้พรกับมนุษย์





ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม
ภาพจาก http://kbeautifullife.askkbank.com
Read More

ดานสาวคอย หรือ ลานหินดานสาวคอย

ไม่มีความคิดเห็น:

อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม: ความเป็นมา
มีตำนานเล่าขานกันว่าสมัยก่อน มีสาวงามนัดพบกับคนรักหนุ่มที่แห่งนี้ แต่ชายหนุ่มถูกพ่อของสาวงามฆ่าตายเสียก่อน วิญญาณของสาวงามนั้น จึงวนเวีนยอยู่ที่ ณ ที่แห่งนี้ จึงได้ชื่อว่า "ลานสาวคอย" ตั้งอยู่บนเทือก เขาพูพานมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินราบเรียบพบต้นไม้เบญจพรรณ ที่ขึ้นอยู่ประปรายนักท่องเที่ยวหลายท่านที่ขึ้นไปบนลานหินแล้วสามารถมอง เห็นยอดพระธาตุพนมได้อย่างชัดเจน

กระทั่งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2528 ก็มีการประดิษฐาน "พระพุทธมหามงคลบพิตรจัตุรทิศประทานพร" อันเป็นสัญลักษณ์ของการยุติการสู้รบเพื่อนำความสงบสุขมาสู่ดินแดนแห่งนี้ ต่อมาสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็น "วัดดานสาวคอยวนาราม" เมื่อปี พ.ศ.2546 และจากนั้นในปี พ.ศ.2547ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อวัดใหม่ว่า "วัดภูพานอุดมธรรม" พร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้เชิญตราสัญลักษณ์เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบมาประดิษฐาน ณ ผ้าทิพย์องค์พระพุทธมหามงคลบพิตรจัตุรทิศประทานพร ตั้งอยู่บริเวณวัดภูพานอุดมธรรม (หรือชื่อเก่าวัดภูพานลานสาวคอยวนาราม) บนเทือกเขาภูพาน บ.ลานสาวคอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม แหล่งท่องเที่ยวนครพนม

การเดินทางท่องเที่ยว
ห่างจากอำเภอนา แกประมาณ 6 กิโลเมตร (เข้าทางเดียวกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงนครพนม) การเดินทาง ขึ้นไปควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเพราะทางขึ้นขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ วัดภูพานอุดมธรรม ลานสาวคอย ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลานหินเรียบ มีต้นไม้เบญจพรรณขึ้นประปราย เมื่อขึ้นถึงลานหินนี้แล้ว สามารถมองเห็นยอดพระธาตุพนม รวมทั้งหนองหานในจังหวัดสกลนครได้เป็นอย่างดี





ขอขอบคุณ: เจ้าของภาพและเอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดยคุณ ME-Li-sA
http://www.rimnam.com
Read More

พระธาตุพนม พระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์

ไม่มีความคิดเห็น:


                  พระธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์  ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร”


                 พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนมยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว


                  ในวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนมและประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อกันมาหลายวัน ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกัม ปัจจุบันองค์  พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี 




ขอบคุณข้อมูลจาก www.thai.tourismthailand.org

Read More

พระธาตุนคร พระธาตุประจําวันเกิดวันเสาร์

ไม่มีความคิดเห็น:



                   พระธาตุนคร เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์ คาถาบูชาดวงประจำวันเกิดวันเสาร์ คือ

 "โส มา ระ กะ ริ กา โธ "สวดบูชาวันละ ๑๐ จบ ชื่อคาถาพระนารายณ์ถอดจักร ใช้ทางถอดคุณไสยศาสตร์ ประจำอยู่ทิศหรดี คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้

                  ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ ถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พระธาตุนครมีลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ ๕.๘๕ เมตร สูง ๒๔ เมตร ก่อสร้างเสร็จในเดือนเพ็ญของปี ๒๔๖๕ มีรูปแบบคล้ายพระธาตุพนมองค์เดิม องค์ก่อนที่จะสร้างขึ้นใหม่ที่เห็นในปัจจุบัน ภายในบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ พร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่าง ๆ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธานำมาถวาย เพื่อบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ





                   พระธาตุนคร เป็นประธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์ เชื่อกันว่าไม่ว่าผู้ใดจะเกิดวันไหนก็ตาม หากได้มีโอกาสไปนมัสการพระธาตุองค์นี้แล้ว จะได้รับอานิสงค์ส่งเสริมบุญบารมี และมีอำนาจวาสนา เป็นเจ้าคนนายคน

                  เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ และเจ้าคณะจังหวัดนครพนม จึงเชิญญาติโยมและข้าราชการมาประชุม มีท่านเจ้าเมืองมาประชุมด้วย เพื่อจะค้นหาว่าแสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นมาจากที่ใด เพราะองค์พระธาตุในวัด ก็เก่าแก่ทรุดโทรมมาก ด้วยไม่ได้มีการบูรณะมานับพันปีแล้ว จึงเห็นควรรื้อถอน เพื่อพื้นที่วัดจะได้กว้างขึ้น จึงตกลงรื้อถอนเพื่อค้นหาพระธาตุ พอรื้อไปได้สัก ๔ - ๕ ธาตุ ก็พบเข้าจริง ๆ เป็นพระธาตุองค์เล็ก เก่าแก่มากมีรากต้นโพธิ์ร้อยรัดอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอรหันต์ธาตุอยู่ พอเปิดดูข้างในพระธาตุก็พบผอบไม้จันทร์แดงอยู่หนึ่งใบ และใต้พระธาตุยังมีงูดำตัวใหญ่ ขนาดลำแข้งของคนตัวใหญ่ ๆ อยู่ตัวหนึ่ง นอนนิ่งอยู่ น่าจะเป็นงูผู้รักษาพระธาตุ จากนั้นนำผอบไปเปิดดูที่อุโบสถก็พบว่ามี พระพุทธรูปทองคำขนาดหน้าตัก ๒ นิ้ว ๔ องค์ พระพุทธรูปเงิน ๒ องค์ แผ่นทอง บาง ๆ ยาว ๆ ประมาณ ๑ คืบ ๑ แผ่น และมีผอบไม้จันทร์แดงขนาดเท่าไข่เป็ดอีก ๑ ผอบ เปิดดูมีพระสารีริกธาตุอยู่ ๒๐ องค์ ขนาดเท่าเม็ดพุทรา มีนานฝ้ายห่อหุ้มอยู่




                       จากนั้นจึงมีการประชุมเพื่อหาฤกษ์งามยามดี สร้างพระธาตุขึ้นเพื่อบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ และพระธาตุนคร ก็ได้เริ่มสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓แล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๔๖๕ นับเป็นพระธาตุคู่เมืองนครพนม

                        หากมาจากธาตุพนมตามถนนสาย ๒๑๒ หรือมาจากสกลนครตามถนนสาย ๒๒ เมื่อมาถึงริมโขงมีสามแยกก็ตรงมา หรือเลี้ยวซ้ายเข้าเมือง ผ่านโรงแรมที่ผมพัก ซึ่งโรงแรมนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงในจุดที่มีวิวสวยมาก โดยเฉพาะยามเช้า ชมดวงอาทิตย์ขึ้นไปต้องไปชมที่ไหน ตื่นให้ทัน ชมจากหน้าต่างห้องพักนั่นแหละ และหากคืนเดือนหงายแสงจันทร์จะทอดมายังชายหาดสีทอง มีเกาะทรายหน้าโรงแรม มีน้ำไหล และกระทบแสงจันทร์แล้วจะสวยมาก


สิ่งของบูชาพระธาตุ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ธูป ๑๐ ดอก เทียน ๒ เล่ม




ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม
ภาพจาก www.thatphanomriverviewhotel.com
Read More

พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์

ไม่มีความคิดเห็น:


                     พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุอุเทน อ.ท่าอุเทน สร้างเมื่อปีพ.ศ.2455 เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนรูปสี่เหลี่ยม จำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กและสูงกว่าพระธาตุพนม ภายในบรรจุดพระพุทธสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายเอาไว้

                     เชื่อกันว่าผู้ที่เกิดวันนี้เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รักอิสระ รักสวยรักงาม พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ คือพระธาตุหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ




                         องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม สูง 33 วา จำลองแบบมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า เรือนธาตุมีสองชั้นลดหลั่นกันขึ้นไป แต่ละชั้นมีซุ้มประตูหลอกทั้งสี่ทิศ เหนือซุ้มประตูมีทับหลังเป็นปูนปั้นลายดอกบัวบาน รูปบุคคล และสัตว์ต่าง ๆ โดยมีลายพรรณพฤกษาเป็นพื้นหลัง ตามกรอบซุ้มประตูบนเรือนธาตุก็มีลายพรรณพฤกษาประดับอยู่เช่นกันภายในองค์ธาตุเป็นอุโมงค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระอาจารย์สีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า นอก จากนี้ยังมีพระพุทธรูปทองคำและของมีค่าอื่น ๆ ที่ผู้ศรัทธานำมาถวาย บรรจุไว้ในองค์ธาตุด้วยบนกำแพงแก้วรอบองค์ธาตุมีประติมากรรมปูนปั้นฝีมือของพระอาจารย์สีทัตถ์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุภาษิตคำพังเพยพื้นบ้าน ตลอดจนการจำลองนรก-สวรรค์




                        เป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่เลื่องชื่อที่อยู่คู่กับจังหวัดนครพนมมาช้านานอีกทั้งยังมีความงามของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่ถ้าได้ไปถึงนครพนมแล้วก็คงไม่ไปพระธาตุท่าอุเทนไม่ได้อย่างแน่นอน พระธาตุท่าอุเทนนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน สร้างเมื่อปี พ.ศ.2455 องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนรูปทรงสี่เหลี่ยม จำลองมาจากพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กและสูงกว่า โดยสูงจากพื้นดินถึงยอด 33 วา ฐานกว้างด้านละ 6 วา 3 ศอก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายไว้องค์พระธาตุแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 15 เมตร 






                      พระธาตุองค์นี้เป็นปูชนียสถานสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง มีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี พระธาตุท่าอุเทนถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ คือหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ ส่วนด้านขวาคือทิศตะวันออกติดแม่น้ำโขง ภายในวัดมีกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ เป็นวิสาหกิจชุมชน "ศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์"




ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม
Read More

พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี

ไม่มีความคิดเห็น:


                 พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันพฤหัสบดี มีคาถาบูชาพระธาตุว่า "ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ" สวดบูชาวันละ ๑๙ จบ ชื่อคาถา พระนารายณ์ตรึงไตรภพ บูชาแล้วจะเกิดเมตตามหานิยม ประจำอยู่ทิศประจิม หรือตะวันตก  

               ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๙๓ กิโลเมตร เดิมเป็นเจดีย์โบราณ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๔๓๖ จึงได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยจำลองรูปทรงมาจากองค์พระธาตุพนม ลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยม วัดโดยรอบฐานได้ ๒๐.๘๐ เมตร สูง ๒๘.๕๒ เมตร พระธาตุประสิทธิ์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ถึง ๗ องค์ และยังบรรจุพระอรหันต์ธาตุเอาไว้อีก ๑๔ องค์ บรรจุจากสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง ในอุโมงค์พระธาตุยังได้มีการบรรจุพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ซึ่งพบอยู่ในอุโมงค์พระธาตุ เมื่อครั้งบูรณะครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธบาทจำลอง ที่อัญเชิญมาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ไว้อีกด้วย 

                พระธาตุองค์นี้มีความสำคัญ และความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นพระธาตุองค์เดียวในประเทศไทย ที่มีการบรรจุสิ่งสำคัญแห่งพระพุทธศาสนาไว้ครบหมด เป็นโบราณวัตถุที่เก่าแก่เป็นปูชนียวัตถุ ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้สักการะเป็นอย่างยิ่ง เป็นหลักยึดเหนี่ยวของพระพุทธศาสนิกชนทั่วไป จัดว่าเป็นขุมทรัพย์อันประเสริฐของชาวพุทธโดยแท้    

               ที่ศรีสงครามเป็นอำเภอที่แม่น้ำยมมาบรรจบกับแม่น้ำสงคราม ทำให้เกิดแหล่งปลาชุกชุม ชาวบ้านจึงหาวิธีถนอมอาหารด้วยการทำปลาร้า ปลาร้าที่บ้านปากยามขึ้นชื่อว่าอร่อย และสะอาดที่สุด ซื้อแล้วให้เขาห่อให้อย่างดีรับรองว่าเอากลับมาบ้านได้ ปลาที่ศรีสงครามบ้านปากยามนำมาทำปลาร้าคือ ปลาหนัง ซึ่งเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด หมักกับเกลือสินเธาว์ บวกกับสูตร และความชำนาญเฉพาะถิ่น ผลิตส่งออกขายทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปเป็นแจ่วบองด้วย ปลาร้าที่บ้านปากยามนี้จะหมักในไหที่ปั้นจากบ้านโนนตาล ซึ่งบ้านโนนตาลนี้อยู่ในอำเภอท่าอุเทน เป็นหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาเช่น โอ่ง ครก ไห ที่ปั้นจากดินคุณภาพดี



ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม

Read More

พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ (กลางคืน)

ไม่มีความคิดเห็น:


 วัดมรุกขนคร นี้เจริญรุ่งเรืองมากในอดีตจนถึงปี พ.ศ. 2320 ตัวเมืองถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง และเกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นอันมาก จึงได้ย้ายไปตั้งที่บ้านหนองจันทร์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บริเวณนั้นปรากฏชื่อว่า "บ้านเมืองเก่า" มาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีซากปรักหักพังของเมืองและวัดปรากฎอยู่ให้เห็น อยู่ในบริเวณโรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ ทิศเหนือห้วยบังฮวก ปัจจุบันได้รับการบูรณะและตั้งเป็นวัดโดยถูกต้องสมบูรณ์

 พระธาตุมรุกขนคร เป็น 1 ในพระธาตุประจำวันเกิด 7 องค์ในจังหวัดนครพนม (โดยพระธาตุพนมเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุหลัก ส่วนอีก 6 องค์เป็นบริวาร) และถือเป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนม องค์ที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาพระธาตุทั้ง 7 องค์ 

เดิมเมืองมรุกขนครตั้งอยู่ที่เมืองท่าแขก ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ต่อมาพระบรมราชา (กู่แก้ว) ผู้ครองเมืองมรุกขนนคร ได้ย้ายเมืองจากท่าแขกมาตั้งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงปากห้วยบังฮวก เมื่อราวปี พ.ศ. 2300 และสร้างวัดไว้กลางเมือง 4 วัด คือ 
         1. วัดดอนกอง (อยู่ระหว่างบ้านดอนกอง ต่อกับบ้านดงขวาง) 
         2. วัดดงขวางท่า (อยู่ริมถนนชยางกูรทิศตะวันตกเหนือสุดบ้านดงขวางท่า )     
         3. วัดขอนแก่น (อยู่ริมห้วยบังฮวกลึกเข้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) 
         4. วัดนาถ่อนท่า /ดอนศาลเจ้า (บ้านนาถ่อนท่าอยู่ริมถนนชยางกูรด้านทิศตะวันออก)



ขอบคุณข้อมูลจาก www.thai.tourismthailand.org
Read More

พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ

ไม่มีความคิดเห็น:

           
               วัดพระธาตุมหาชัย ทางเข้าวัดเป็นถนนคอนกรีต องค์พระธาตุสูง 37 เมตร เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุภายในพระอุโบสถ นอกจากพระประธานคือ พระพุทธไชยสิทธิ์แล้วยังมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติสลักจากไม้ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถแสดงพุทธประวัติซึ่งมีลวดลายศิลปกรรมที่งดงามมากในภาคอีสาน 




                 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระธาตุมหาชัย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา และที่วัดนี้ยังเป็นที่จำพรรษาของพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) พระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมและชาวอีสานทั่วไป พระธาตุมหาชัยถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ประสบชัยชนะในชีวิต




                พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระธาตุมหาชัย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา และที่วัดนี้ยังเป็นที่จำพรรษาของพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) พระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมและชาวอีสานทั่วไป 




ขอบคุณข้อมูลจาก www.thai.tourismthailand.org
Read More

พระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร

ไม่มีความคิดเห็น:


พระธาตุศรีคุณ เชื่อกันว่าหากมาสักการะแล้วจะมีศักดิ์ศรีทวีคูณและได้รับความเมตตา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุศรีคุณยังเป็นพระธาตุประจำตัวผู้ที่เกิดวันอังคาร องค์พระธาตุมีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม พระธาตุศรีคุณมีลักษณะเป็นบัวเหลี่ยม สร้างด้วยศิลปะล้านช้าง เช่นกัน แต่ขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระอรหันต์ธาตุของพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ และพระสังกัจจายน์ โดยเครื่องสักการะพระองค์พระธาตุที่นิยมกันมีข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง และดอกไม้สีชมพู เทียน 1 คู่ ธูป 8 ดอก โดยมีคาถานมัสการสำหรับผู้เกิดวันอังคารว่า ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ถือเป็นคาถาทางเมตตามหานิยม

คาถาบูชาดวงประจำวันเกิดวันอังคาร "ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง" สวดบูชาวันละ ๘ จบ ชื่อคาถาฝนเสน่หา ใช้ทางเมตตามหานิยม ประจำอยู่ทิศอาคเนย์ หรือตะวันออกเฉียงใต้

สิ่งของบูชาพระธาตุ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวหนียวปิ้ง ดอกไม้สีชมพู ธูป ๘ ดอก เทียนขาว ๒ เล่ม



ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม

Read More

พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันเกิดวันจันทร์

ไม่มีความคิดเห็น:

                   พระธาตุเรณูนคร ประดิษฐานอยู่วัดพระธาตุเรณู ณ บ้านเรณูนคร องค์พระธาตุจำลองมาจากองค์พระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า  สร้างเมื่อปี พ. ศ. 2461 โดยพระอุปัชฌาย์อินภูมิโย สูง 35 เมตร กว้าง 8.37 เมตร มีซุ้มประตู 4 ด้าน

                  ประวัติ  สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2460 เป็นพระธาตุคู่เมืองของชาวเรณูนคร โดยจำลองรูปทรงมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม คือองค์ก่อนที่จะล้มในปี พ.ศ.2518 แต่มีขนาดเล็กกว่า สูง 35 เมตร กว้างด้านละ 8.37 เมตร ภายในเจดีย์บรรจุคัมภีร์พระธรรม พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เพชรนิลจินดา หน่องา และของมีค่าที่เจ้าเมืองเรณูนคร กับประชาชนนำมาบริจาค และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2519 มีงานเทศกาลนมัสการพระธาตุเรณูนคร เป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 11 - 15 ค่ำ เดือน 4 รวม 5 วัน 5 คืน 

                  สิ่งของบูชาพระธาตุ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีเหลือง ธูป 15 ดอก เทียนขาว 2 เล่ม มีจำหน่ายที่ศาลาใกล้องค์พระธาตุ และที่ศาลาแห่งนี้ยังมีห้องจำหน่ายวัตถุมงคลอีกด้วย เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการ จะได้อานิสงค์ส่งผลให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์ 
ภายในโบสถ์ยังประดิษฐานพระองค์แสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคาศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ พระคู่บ้านของอำเภอ พระองค์แสนพระพุทธรูปที่ประชาชนเคารพนับถือ ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดธาตุเรณูพระพุทธรูปหล่อด้วยทองเหลือง เนื้อทองตันทั้งองค์ หน้าตักกว้างและสูง 50 เซนติเมตร เป็นพระคู่บ้าน คู่เมือง สร้างก่อนที่จะสร้างพระธาตุเรณูในปี พ.ศ.2460 แผ่นทองที่นำมาหลอมเป็นองค์พระพุทธรูปได้มาจาก การบอกบุญขอบริจาคจากหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วเรณูนคร เมื่อนำมาหล่อรวมนั้น ในครั้งแรก หล่อไม่สำเร็จ ไม่ติดเบ้าพิมพ์ ต้องย้ายที่ไปหล่อใหม่จึงสำเร็จ แล้วอัญเชิญมาไว้ ณ อุโบสถหลังเก่าของวัดกลาง หรือวัดธาตุเรณู ในเวลาต่อมา เมื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่แล้ว ก็อัญเชิญประดิษฐานอยู่ในอุโบสถหลังใหม่ของวัดเรณู อายุพระองค์แสนจึงมีอายุนานกว่า 100 ปีแล้ว

                   เหตุที่เรียกว่า พระองค์แสน เพราะว่ามีน้ำหนัก 10 หมื่น มาตราชั่งของชาวบ้านกำหนดว่า 12 กิโลกรัม เป็นหนึ่งหมื่น 10 หมื่น จึงเท่ากับหนึ่งแสน เท่ากับ 120 กิโลกรัม เท่ากับน้ำหนักขององค์พระทอง

บริเวณบ้านเรณูนครแห่งนี้แต่เดิมเป็นเรณูนคร ถิ่นที่อยู่ของชาวผู้ไทย ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นไว้เป็นอย่างดี อาทิ ธรรมเนียม การต้อนรับด้วยการบายศรีสู่ขวัญ การเลี้ยงอาหารแบบพาแลง การชวนดูดอุ การฟ้อนรำผู้ไทย นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้า พื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆไว้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงอีกมากมาย โดยเฉพาะบริเวณ วัดพระธาตุเรณูนคร และตลาดอำเภอเรณูนคร


ขอบคุณข้อมูลจาก สวัสดีนครพนม
Read More